นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ปรับแผนการดำเนินงานโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ระยะ(เฟส)ที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต–ห้าแยกฉลอง เพื่อให้เริ่มดำเนินการในอีก2ปีข้างหน้าเนื่องจากช่วงแรกนี้ต้องเร่งดำเนินโครงการก่อสร้างถนนของกรมทางหลวง(ทล.) ให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อใช้เป็นทางเลี่ยงในช่วงที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)ภูเก็ต เพราะหากสร้างพร้อมกันทั้งถนน และรถไฟฟ้า จะยิ่งทำให้ปัญหาการจราจรใน จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะบนถนนทางหลวงหมายเลข402ติดขัดมากขึ้น กระทบการเดินทางของประชาชนได้
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า เบื้องต้น รฟม. เสนอใช้ระบบรถไฟฟ้า เป็นรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)ล้อเหล็ก มีระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือศีรษะ ซึ่งเป็นรูปแบบที่มีการใช้งานแพร่หลาย แต่เนื่องจากปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ร่วมกับภาคเอกชน ในการพัฒนารถไฟระบบEVon Trainอยู่ จึงมอบโจทย์นี้ให้ รฟม. ไปพิจารณาด้วย นอกจากนี้ให้พิจารณาเรื่องปริมาณผู้โดยสาร รวมถึงเรื่องค่าโดยสาร ซึ่งมีความกังวลไม่อยากให้มีราคาแพงเกินไป เพราะแทรมสายนี้จะเกิดประโยชน์มากกับทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางระหว่างสนามบินภูเก็ต กับแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนในพื้นที่ที่ต้องเดินทางไปมาทุกวัน
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ได้ย้ำกับ รฟม. ว่า ค่าโดยสารแทรมภูเก็ตสามารถเน้นราคาที่สมเหตุสมผลกับกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ และหากคำนวณแล้วค่าใช้จ่ายเพียงพอกับต้นทุน ก็สามารถจัดเก็บค่าโดยสารราคาถูกสำหรับประชาชนในพื้นที่ได้ ส่วนแนวเส้นทางนั้น ยังคงเป็นเส้นทางเดิมทั้งหมดแต่ต้องมีการปรับจราจรใน จ.ภูเก็ตควบคู่ด้วยอย่างไรก็ตามยังมีเวลาที่จะทำให้โครงการนี้เดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยในช่วง2ปีหลังจากนี้ รฟม. จะต้องศึกษาพิจารณาในทุกเรื่องให้รอบคอบ และดีที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงกับทุกฝ่าย
ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า การปรับแผนการดำเนินงานแทรมภูเก็ตออกไปอีก2ปี คาดว่าวงเงินที่ใช้ในการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้ออีกประมาณ10%จากวงเงินเดิมประมาณ3.3หมื่นล้านบาท ในส่วนของเส้นทางยังเป็นเส้นทางเดิม เริ่มจากท่าอากาศยานภูเก็ต สิ้นสุดบริเวณห้าแยกฉลอง ระยะทางประมาณ42กิโลเมตร(กม.) ซึ่งในจุดที่เป็นจุดตัดระหว่างถนน และทางวิ่งแทรม จะทำเป็นทางลอด โดยแทรมจะวิ่งลอดใต้ถนน เพื่อลดปัญหาการจราจรส่วนอัตราค่าโดยสาร เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่20บาทตลอดสาย แต่หากผู้โดยสารคนใดใช้บริการเข้า-ออกจากท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะทางประมาณ4-5กม. จากสถานีเมืองใหม่ จะคิดค่าโดยสารเพิ่ม (Airport Surcharge)คนละ30บาท
นายภคพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายให้พิจารณาการใช้รถไฟฟ้าEVนั้น ต้องมีการสร้างสถานีชาร์จเพิ่มเติมด้วย โดยประเด็นนี้รวมถึงโจทย์ต่างๆ ที่ รมว.คมนาคม มอบมานั้น ทาง รฟม. จะให้ที่ปรึกษาที่ รฟม. ว่าจ้างศึกษาโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต เฟสที่ 1 อยู่เดิม ซึ่งปัจจุบันยังคงทำหน้าที่อยู่ ให้ศึกษาเปรียบเทียบในรายละเอียดเพิ่มเติม โดยเฉพาะต้นทุนของทั้งรถไฟฟ้าแบบEVและรถไฟฟ้าแบบจ่ายไฟฟ้าเหนือศีรษะว่าเป็นอย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตามการที่มีนโยบายให้เริ่มดำเนินโครงการแทรมภูเก็ตในอีก2ปีข้างหน้า ทาง รฟม. คงต้องชะลอแผนการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าในภูมิภาค3จังหวัดออกไปก่อน ได้แก่ จ.เชียงใหม่, จ.นครราชสีมา และ จ.พิษณุโลก เพื่อให้แทรมภูเก็ตเป็นต้นแบบ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแผนการดำเนินงานโครงการแทรมภูเก็ต เบื้องต้นจะใช้เวลาปรับปรุงรายงานการร่วมลงทุนโครงการฯ ระหว่างรัฐและเอกชน (PPP)2เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย.66จากนั้นจะเสนอคณะทำงานตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 และคณะกรรมการ(บอร์ด)รฟม. พิจารณาในช่วงเดือน ธ.ค.66-มี.ค.67ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคม, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.), คณะกรรมการPPPและคณะรัฐมนตรี(ครม.) ประมาณเดือน เม.ย.-ต.ค.67เริ่มคัดเลือกเอกชนเดือน พ.ย.67-ต.ค.68ก่อสร้าง และติดตั้งงานระบบเดือน พ.ย.68-ม.ค.73และเปิดให้บริการเดือน ก.พ.73คำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา มีนโยบายปรับรูปแบบรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)ภูเก็ต เป็นรถรางล้อยาง(Automated Rapid Transit : ART) ก่อนที่สุดท้ายจะเปลี่ยนเป็นรถเมล์ไฟฟ้า(อีวีบัส) เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง.คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต